"จะทำอย่างเมื่อคุณเหลือแต่ความหวัง"
เช้าวันที่ 28 พค.
ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสเดินทางไปหา "หมู"
หนุ่มใหญ่เชฟใหญ่ที่มีอนาคตกำลังรุ่งโรจน์ในชีวิตมั่นคงในการงานอาชีพและ
เงินทองที่ใช้สอยได้อย่างสบายๆ
จนทำให้หลงลืมที่จะดูแลร่างกายของตนเองจนเป็นเหตุให้ต้องอยู่ในภาวะเส้น
เลือดในสมองแตก (Stroke) จนทำให้เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งซีก
นอกเหนือจากที่ได้ใช้เงินทองจดหมดในการทุ่มเทรักษาฟื้นฟูร่างกายให้กลับมา
แล้ว...ครอบครัวก็ยังหันหลังให้จนต้องใช้ชีวิตตามลำพังแต่ผู้เดียว...แต่ก็
ยังโชคดีที่มีเพื่อนคอยดูแลและให้ความช่วยเหลืออยู่
ทราบมาว่าอีกสองเดือนนับจากนี้ "หมู"
จะมีความหวังที่จะได้กลับมาทำงานที่ร้านอาหารเปิดใหม่ที่เพื่อนยังไว้ใจและ
ให้โอกาสแต่ก็ต้องรอการพูดคุยว่าเขาจะรับหมูเข้าทำงานหรือปล่าว
เมื่อหมูมีความหวังผมก็ให้ความฝัน...
หมูก็รับปากว่าจะพยายามฝึกเดินให้มากขึ้น...ให้นานขึ้น...ให้เร็วขึ้น
หมูรู้ว่าจะต้องเริ่มฝึกวิ่ง...วิ่งเยาะๆ...วิ่งให้เร็วขึ้น...วิ่งในนานขึ้น
หมูเข้าใจแล้วว่าจะต้องลดน้ำหนักเพื่อทำให้ภาวะร่างกายกลับมาสมดุล
หมูจะต้องฝึกเขียน...ฝึกทบทวนความจำ...เพื่อฟื้นฟูร่างกายทุกส่วน
ให้พร้อมที่สุดที่จะทำให้ได้กลับมาทำงานอย่างที่หวังไว้
ถึงแม้วันนี้หมูจะหมดเงิน...หมดคนที่อยู่เคียงข้าง...แต่ก็ยังไม่หมดความ หวังที่จะเดินทางความฝัน...เพียงแต่ขอโอกาสให้เขาบ้างเท่านั้นเองครับ
ผมไม่รู้ว่าคนอื่นๆ จะมีความคิดเห็นอย่างไร...แต่สำหรับผมที่เคยอยู่ในสภาพเดียวกันมาก่อน...พูด ได้คำเดียวครับว่า "ชีวิตนับจากนี้...ไม่ง่ายเลยครับหมู"
เมื่อหมูมีความหวังผมก็ให้ความฝัน...
หมูก็รับปากว่าจะพยายามฝึกเดินให้มากขึ้น...ให้นานขึ้น...ให้เร็วขึ้น
หมูรู้ว่าจะต้องเริ่มฝึกวิ่ง...วิ่งเยาะๆ...วิ่งให้เร็วขึ้น...วิ่งในนานขึ้น
หมูเข้าใจแล้วว่าจะต้องลดน้ำหนักเพื่อทำให้ภาวะร่างกายกลับมาสมดุล
หมูจะต้องฝึกเขียน...ฝึกทบทวนความจำ...เพื่อฟื้นฟูร่างกายทุกส่วน
ให้พร้อมที่สุดที่จะทำให้ได้กลับมาทำงานอย่างที่หวังไว้
ถึงแม้วันนี้หมูจะหมดเงิน...หมดคนที่อยู่เคียงข้าง...แต่ก็ยังไม่หมดความ หวังที่จะเดินทางความฝัน...เพียงแต่ขอโอกาสให้เขาบ้างเท่านั้นเองครับ
ผมไม่รู้ว่าคนอื่นๆ จะมีความคิดเห็นอย่างไร...แต่สำหรับผมที่เคยอยู่ในสภาพเดียวกันมาก่อน...พูด ได้คำเดียวครับว่า "ชีวิตนับจากนี้...ไม่ง่ายเลยครับหมู"