"หมูเริ่มมั่นใจที่จะฟื้นฟูร่างกายแนวธรรมชาติสมดุล"
ก่อนอื่นผมก็ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนในเฟซบุ๊คที่ติดตามและให้กำลังใจ
"หมู หนุ่มใหญ่เชฟใหญ่"
ไม่คิดว่าจะได้รับความสนใจและถามด้วยความเป็นห่วง...ดีใจแทนหมูจริงๆ ครับ
วันนี้ได้รับทราบความคืบหน้าจากหมู...ว่าที่ทุกอย่างได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
นั้นก็มีพัฒนาการมากขึ้นจนวันนี้หมูเองก็มั่นใจมากขึ้นเมื่อได้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงนั้น
เริ่มจากการเดิน...จากที่เดินเตาะแตะ...ก็เดินด้วยท่าทางคล่องแคล่วมากขึ้น
ส่วนการวิ่ง...จากเดิมที่แทบจะวิ่งไม่ได้เลย...ก็วิ่งได้ดีขึ้น เร็วขึ้น ระยะทางมากขึ้น
มีการทำสมาธิตอนค่ำ ก่อนที่จะทำกายบริหารแบบโยคะ (แบบฉบับของหมู)
ฝึกความทรงจำของสมองด้วยการเขียนบันทึกช่วงเวลาที่เริ่มป่วยเป็น Stroke เป็นต้นมา
ส่วนการวิ่ง...จากเดิมที่แทบจะวิ่งไม่ได้เลย...ก็วิ่งได้ดีขึ้น เร็วขึ้น ระยะทางมากขึ้น
มีการทำสมาธิตอนค่ำ ก่อนที่จะทำกายบริหารแบบโยคะ (แบบฉบับของหมู)
ฝึกความทรงจำของสมองด้วยการเขียนบันทึกช่วงเวลาที่เริ่มป่วยเป็น Stroke เป็นต้นมา
หมูเล่าให้ฟังว่า...
เพื่อนบ้านที่อยู่ตรงข้ามป่วยเป็นสโตรคเหมือนกันก็บอกกับหมูว่า "หมูเดินได้ดีมากขึ้นกว่าเดิมมาก"
หมูก็ตอบว่า "ยังดีไม่พอที่จะกลับไปทำงาน...ผมจะต้องฝึกเดินให้ดีกว่านี้"
"แล้วเวลาตอนยกขาเริ่มเดินเริ่มวิ่งไม่เจ็บปวดหรือ" คำถามต่อมาของเพื่อนบ้าน
หมูตอบว่า "เจ็บสิ แต่เราก็ต้องทนฝึก เจ็บมากๆ ก็พัก พอหายแล้วก็เริ่มทำต่อ แต่ทุกวันนี้ความเจ็บปวดมันหายไปแล้วนะ"
หมูบอกว่า..."วันที่ 28 เดือนหน้าเจ้าของร้านอาหารได้โทรมานัดให้ไปพบพูดคุยกันแล้วเพื่อจะดูว่าหมู จะทำงานอะไรได้บ้าง" หมูบอกผมว่า "ผมได้ทุบหม้อข้าวของตัวเองแล้ว...ยังไงผมก็จะต้องฟื้นฟูร่างกายให้พร้อมที่ จะทำงานนี้ให้ได้เพื่อที่จะพอมีรายได้เพื่อดูแลตัวเองต่อไปให้ได้ ถึงแม้ว่าจำนวนเงินอาจจะไม่สูงเท่าเดิมก็ตาม"
และผมรับปากว่า...ผมจะคืนเงินที่ผมได้รับการช่วยเหลือจากกองทุนและพร้อมที่จะช่่วยเหลือคนที่เป็นแบบผมอย่างแน่นอนครับ
...แล้วเจอกันครับ "หมู หนุ่มใหญ่เชฟใหญ่"