"Mission (impossible) completed"
สำหรับคนป่วยด้วยโรคหลอดเลือดในสมองแตก
ก็จะได้ยินคำพูดตอกย้ำอยู่บ่อยครั้งว่า
"หากเกินหกเดือนแล้วจะฟื้นฟูร่างกายกลับคืนมาได้ยากมาก"
ดังนั้นควรจะต้องรีบฟื้นฟูร่างกายให้กลับคืนมาอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่คนป่วยที่อยู่ในภาวะสับสนกังวลใจเคร่งเครียดอย่างถึงที่สุด...ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี???
หลังจากที่ลุงติ๊กผ่านประสบการณ์การฟื้นฟูร่างกายของตนเองจากร่างกายซีกขวาชาและอ่อนแรงจนกระทั่งกลับมาทำงานได้ภายใน
192วันนับจากวันที่ป่วยด้วยอาการสโตรค ก็ด้วยพลังของธรรมชาติบำบัดที่ลุงติ๊กค้นพบด้วยคำแนะนำของแพทย์แผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟู
ลุงติ๊กได้ถ่ายทอดประสบการณ์การฟื้นฟูร่างกายด้วยธรรมชาติบำบัดให้กับ
"เชฟหมู" ผู้ที่ป่วยเช่นเดียวกับผมหากแต่กว่า
1ปีที่เชฟหมูตระเวนรักษาตัวตามที่ต่างๆ หมดทั้งเงิน
หมดทั้งเวลาแต่อาการก็ไม่ได้ดีขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น
ลุงติ๊กได้เห็นการเดินของเชฟหมูที่มีร่างกายสูงใหญ่แต่ต้องค่อยๆ
เดินเตาะแตะคล้ายๆ
การเดินของนกเพนกวิน...หลังจากที่ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันแล้วก็ทราบว่า
"เชฟหมูมีความหวังที่จะได้ทำงานที่ห้องอาหารที่เกาะสมุยโดยจะมีนัดพูดคุยกันอีกสองเดือนข้างหน้า"
แต่คราวนี้เชฟหมูยอมทุบหม้อข้าวตนเองเพื่อจะฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาให้ได้ก่อนที่จะไปสัมภาษณ์งาน
"เชฟหมูได้งานทำแล้วครับ" นับเป็นความสำเร็จของเชฟหมูที่ตั้งใจตั้งมั่นที่จะฟื้นฟูร่างกายตน เอง...ทั้งความพยายามและความอดทนในการฝึกฝนก้าวเดิน...ย่างเท้าวิ่ง...จนสามารถวิ่งคล่องมากขึ้นตามลำดับ...อดอาหารเพื่อลดน้ำหนักเพื่อลดภาระการ แบกรับของร่างกาย...ฝึกนั่งสมาธิเพื่อผ่อนคลายความเคร่งเครียดทางจิตใจ...จนทำให้ผ่านการสัมภาษณ์งานทั้งที่หน้างานและที่สำนักงานใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ลุงติ๊กรู้สึกดีใจแทน "เชฟหมู" ที่สามารถกลับมาอยู่ในสังคมนี้ได้อีกครั้ง และเมื่อได้ยินสิ่งที่เชฟหมูพูดถึงความตั้งใจของตนเองว่า "ผมจะต้องพยายามช่วยเหลือคนที่เป็นแบบผมนี้ให้กลับมาให้ได้เหมือนผมครับ"
ในความสำเร็จของภารกิจนี้ก็จะต้องขอบคุณอาจารย์อุ๋ย Kulachatr Chatrakul Na Ayudhya ผู้ริ่เริ่มโครงการสติกับสโตรค
ขอบคุณเพื่อนๆ ของผมที่ร่วมกับสนับสนุนเงินจนเป็นกองทุน One Call One Life
"เชฟหมูได้งานทำแล้วครับ" นับเป็นความสำเร็จของเชฟหมูที่ตั้งใจตั้งมั่นที่จะฟื้นฟูร่างกายตน เอง...ทั้งความพยายามและความอดทนในการฝึกฝนก้าวเดิน...ย่างเท้าวิ่ง...จนสามารถวิ่งคล่องมากขึ้นตามลำดับ...อดอาหารเพื่อลดน้ำหนักเพื่อลดภาระการ แบกรับของร่างกาย...ฝึกนั่งสมาธิเพื่อผ่อนคลายความเคร่งเครียดทางจิตใจ...จนทำให้ผ่านการสัมภาษณ์งานทั้งที่หน้างานและที่สำนักงานใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ลุงติ๊กรู้สึกดีใจแทน "เชฟหมู" ที่สามารถกลับมาอยู่ในสังคมนี้ได้อีกครั้ง และเมื่อได้ยินสิ่งที่เชฟหมูพูดถึงความตั้งใจของตนเองว่า "ผมจะต้องพยายามช่วยเหลือคนที่เป็นแบบผมนี้ให้กลับมาให้ได้เหมือนผมครับ"
ในความสำเร็จของภารกิจนี้ก็จะต้องขอบคุณอาจารย์อุ๋ย Kulachatr Chatrakul Na Ayudhya ผู้ริ่เริ่มโครงการสติกับสโตรค
ขอบคุณเพื่อนๆ ของผมที่ร่วมกับสนับสนุนเงินจนเป็นกองทุน One Call One Life